ที่เป็นอย่างนี้ก็คงเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่จะบำรุงขวัญพสกนิกรด้วยว่า คนไทยเราจะลงหลักปักฐานอยู่กันที่นี่ไม่หนีศัตรูไปไหนอีกแล้ว ตัวเสาหลักเมืองเองก็ยังเลือกทำจาก "ไม้ชัยพฤกษ์" ที่มีชื่อเป็นมงคล ส่วนที่หัวเสาก็บรรจุดวงเมืองเอาไว้ด้วย
ตอนแรกก็มีอยู่ต้นเดียวนี่แหละ แต่พอมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ก็โปรดฯ ให้ยกเสาหลักเมืองใหม่ ความที่พระองค์ทรงเชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์อยู่ด้วย คงจะทรงเห็นว่าดวงเมืองเดิมไม่เหมาะก็เลยทรงแก้เสียใหม่ แล้วก็เลยมีเสาหลักเมืองอยู่สองต้นอย่างที่เราเห็นกันอยู่
เรียกว่ารัชกาลที่ 4 นั้นไม่เพียงแต่จะทรงพระปรีชาในทางดาราศาสตร์ จนสามารถคำนวณการเกิดสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำทำเอาฝรั่งทึ่งไปตาม ๆ กัน แม้วิชาทางโหราศาสตร์พระองค์ท่านก็มีพระปรีชาไม่ยิ่งหย่อนไปเลย
ส่วนหลักเมืองต้นสูงที่เห็นนั่นเป็นต้นที่ยกสมัยรัชกาลที่ 1 ต้นที่เตี้ยกว่าก็เป็นต้นน้องใหม่สมัยรัชกาลที่ 4
ด้านข้างอาคารศาลหลักเมืองยังมี ศาลเทพารักษ์ อยู่ด้วย ซึ่งประดิษฐานเทพารักษ์อยู่ 5 องค์ ได้แก่ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬชัยศรี เจ้าพ่อเจตคุปต์ และเจ้าพ่อหอกลอง
พระเสื้อเมือง นี่เรียกว่าเป็นฝ่ายบู๊ ระดับคุมกำลังคอยป้องกันอริราชศัตรู ส่วนพระทรงเมือง จัดเป็นพวกบุ๋น คือดูแลเรื่องการปกครอง ดูแลประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข
เล่าเป็นตัวอย่างไว้สักสององค์ ส่วนองค์อื่น ๆ องค์ไหนเป็นองค์ไหน แนะนำให้ไปอ่านกันต่อที่ป้ายหน้าศาลจะดีกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น